Honda K24 K24A K24A2 200 แรงม้า สุดยอดเครื่องยนต์พ่อบ้านซิ่ง
Read Time:11 Minute, 24 Second
คิดอะไรไม่ออก ให้บอก K24A ไปมาแล้วแทบทุก body
เกริ่นนำ
เมื่อพูดถึงเครื่องยนต์ Honda 4 สูบ N/A นอกจากเครื่องรหัส B และ H ที่ครองใจคนรัก Honda มาอย่างยาวนาน เราก็มักจะได้ยินคนพูดถึง Honda K20A ฝาแดงกันมาตลอดไม่น้อยไปกว่ากัน ด้วยพลังแห่ง VTEC และรอบที่สูง ทำให้เครื่องยนต์ 2,000cc 4 สูบ N/A ด้วยพละกำลังถึง 220 แรงม้าจับคู่กับเกียร์ธรรมดาอัตราทดมหาซิ่ง 6 จังหวะนั้นสามารถนำพา Honda Civic Type R ทะลุกำแพงความเร็ว 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างไม่ยากเย็น คือเครื่องยนต์ที่เป็นสุดยอดแห่ง N/A 4 สูบที่โลกกล่าวขานถึง เป็นตำนานที่ยังมีชีวิต และยังส่งเสียงกึกก้องท้องถนนทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้
ลักษณะพื้นฐานของ Honda K Series
เครื่องยนต์ Honda K Series นั้นเป็นเครื่องยนต์แคมคู่ DOHC (Double Overhead Camshaft) 4 กระบอกสูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมกับระบบ i-VTEC (Intelligent Variable Timing and Lift Control) ระบบควบคุมจังหวะเปิดปิดวาล์วแบบแปรผันอัจฉริยะ โดย i-VTEC จะเป็นการผนึก 2 ระบบเอาไว้ด้วยกัน มีทั้งระบบ VTC (Variable Timing Control) ที่ทำงานแบบเดียวกันกับระบบ VVT ในเครื่องยนต์ค่ายอื่น เป็นการบิดองศาการทำงานของ camshaft ฝั่ง intake (ไอดี) เพื่อกำหนดจังหวะของอากาศเข้าและออกให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงการทำงาน และระบบ VTEC (Variable Timing and Lift Control) ที่คอยกำหนดระยะกดวาล์วแบบลึก-ตื้น และระยะเวลาในช่วงเปิดปิดวาล์วให้มากขึ้นหรือน้อยลงเพื่อควบคุมปริมาณอากาศเข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งระบบ VTEC นี้จะมีทั้งในรูปแบบที่ทำมาเพื่อรถบ้านทั่วไปที่เน้นลดอัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิง จะอยู่ในรถบ้านที่ใช้ K20A และ K24A แบบทั่วไป และอีกแบบคือ High Performance VTEC ที่อยู่ใน Honda K20A i-VTEC แบบฝาแดง 220 แรงม้า และใน Honda K24A i-VTEC 200 แรงม้า ที่เราจะพูดถึงกันต่อในครั้งนี้
Honda K24A 200 แรงม้า ต่างกับ Honda K24A ทั่วไปอย่างไร?
Honda K24A/K24A2/K24A3 รุ่น 200 แรงม้า ต่างกับ K24A รหัสทั่วไปตรงที่ K24A ทั่วไปโดยปกติแล้วระบบ VTEC จะมีแค่เฉพาะฝั่ง intake (ไอดี) ที่ทำงานในลักษณะ Eco เพื่อให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ในขณะที่ K24A2 นั้นมาด้วยระบบ VTEC แบบเพิ่มสมรรถนะที่มาทั้งในฝั่งไอดีและไอเสีย
Honda K24A Eco
– 158-160 แรงม้า
– 2,400cc
– DOHC i-VTEC 16 วาล์ว
– อัตราส่วนกำลังอัด 9.7:1, 9.6:1, 10:1 หรือ 10.5:1 แล้วแต่รุ่น
– รหัสฝาสูบ RAA
– ท่อร่วมไอดีพลาสติก
– ระบบแคมแปรผัน VTC บิดองศาการทำงานของ camshaft แบบแปรผัน
– แคมไอดีมี 2 cam lobes เพื่อกำหนดการกดวาล์วไอดีแบบแปรผัน
– แคมไอเสียมีแค่ 1 cam lobe ไม่มีระบบแปรผันในฝั่งไอเสีย
– VTEC แบบ Eco ทำงานเฉพาะฝั่งไอดี
VTEC แบบ Eco จะทำงานแบบปรับระยะกดวาล์วเฉพาะฝั่งไอดี โดยในช่วงโหลดต่ำนั้นวาล์วไอดี 1 วาล์วจะเปิดเต็ม อีก 1 วาล์วจะเปิดแบบหรี่ลงเพื่อสร้าง swirl effect ให้อากาศไหลเข้าห้องเผาไหม้แบบหมุนวน ช่วยให้ผสมผสานกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น ทำให้เผาไหม้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ใช้เชื้อเพลิงได้คุ้มค่ากว่าการเปิดวาล์วไอดีแบบปกติ
Honda K24A High Performance
– 200 แรงม้า
– รหัส K24A, K24A2 และ K24A3 แล้วแต่พื้นที่ที่วางขาย
– 2,400cc
– DOHC i-VTEC 16 วาล์ว
– อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 (2002-2008) ที่นิยมแพร่หลายทั้งในไทยและทั่วโลก
– อัตราส่วนกำลังอัด 11:1 (2008-2013) หายาก ไม่ใช่รุ่นที่จะเน้นพูดถึงในครั้งนี้
– รหัสฝาสูบ RBB ให้ flow ไอดีไอเสียที่ดีกว่า
– ท่อรวมไอดีอลูมิเนียม
– ระบบแคมแปรผัน VTC บิดองศาการทำงานของ camshaft แบบแปรผัน
– แคมไอดีมี 3 cam lobes เพื่อกำหนดการกดวาล์วไอดีแบบแปรผัน
– แคมไอเสียมี 3 cam lobes เพื่อกำหนดการกดวาล์วไอเสียแบบแปรผัน
– VTEC แบบ High Performance ที่เปลี่ยนระยะกดวาล์ว (Lift) ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย
VTEC แบบ High Performance จะมีระบบ VTEC ทั้งในฝั่ง intake (ไอดี) และ exhaust (ไอเสีย) โดย camshaft ในแต่ละฝั่งจะมี 3 lobes ต่อ 1 กระบอกสูบทั้งในฝั่งไอดีและไอเสีย ใช้ 2 lobes หลักเพื่อกด 2 วาล์วลงในระยะปกติ และอีก 1 lobe เพื่อเพิ่มระยะกดให้ลึกและนานขึ้นกับทั้ง 2 วาล์ว และเมื่อมีอยู่ในทั้ง 2 ฝั่งทั้งในฝั่งไอดีและฝั่งไอเสีย ก็จะทำให้ทั้ง 4 วาล์วต่อ 1 กระบอกสูบนั้นมีระยะกดวาล์วที่เพิ่มขึ้นแบบทันทีเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด ส่งผลให้ flow ของอากาศเข้าและไอเสียออกดีขึ้นทั้งหมดทันทีที่ระบบ VTEC ทำงาน
แม้จะความจุ 2,400cc เท่ากันกับเครื่องยนต์ทั่วไป แต่พอเข้ารอบสูงจน VTEC ทำงาน ก็จะได้ปริมาณอากาศที่มากขึ้นกว่าเครื่อง 2,400cc ด้วยกันอย่างมาก เมื่อมีปริมาณอากาศเข้าที่มากกว่า ก็จะทำให้จ่ายเชื้อเพลิงเพื่อเผาไหม้ได้มากกว่า ทำให้จุดระเบิดเพื่อสร้างพละกำลังได้มากกว่า ประกอบกับการที่คายไอเสียออกได้มากกว่า ระบายได้เร็วกว่า ก็จะยิ่งส่งเสริมให้เกิด flow ทั้งเข้าและออกที่ดีเยี่ยม ทำให้เครื่องยนต์ความจุ 2,400cc เท่ากันนั้นสามารถผลิตแรงม้าได้เพิ่มจากรุ่นปกติได้เพิ่มจาก 160 แรงม้าอีก 40 แรงม้า รวมเป็นขุมพลัง 200 แรงม้า ที่สาแก่ใจพ่อบ้านซิ่งทั่วโลกอย่างกว้างขวาง
ที่มา
Honda K24A ที่กำลังแพร่หลายในบ้านเรา ณ ตอนนี้ ส่วนใหญ่จะมาจาก Honda Odyssey Absolute ในประเทศญี่ปุ่น มาในราคาที่ดีมาก มีเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแบบ +- triptonic มาให้ด้วย มาพร้อมปั๊มน้ำมันสำหรับชุด power steering เหมาะกับการวางลงในรถสารพัดรุ่นไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ มีแรงดีในทุกย่านความเร็ว จึงนิยมอย่างมากในบ้านเรา และยังมี Honda K24A2 ที่อยู่ใน Acura TSX และ Honda K24A3 ที่มาจาก Honda Accord Euro R ที่เป็นที่ถามถึง ด้วยความที่รถมีน้อยกว่า เครื่องจึงมีราคาที่สูงกว่ากันอยู่พอสมควร
ข้อสังเกต
แม้ K24A จะเป็นเครื่อง 2,400cc พละกำลัง 200 แรงม้า แต่เมื่อเทียบกับ K20A ฝาแดง 2,000cc แล้วเครื่อง K20A ฝาแดงกลับมีแรงม้ามากกว่า K24A นั่นก็เพราะรอบเครื่องที่สูงกว่า การออกแบบเครื่องและชิ้นส่วนภายในที่ทำมาเพื่อสมรรถนะที่สูงกว่า ฝาสูบที่ flow ดีกว่า camshafts ที่เน้นสร้างพลังในรอบสูงได้ดุดันกว่า ทั้งเรื่องของวาล์ว สปริงวาล์ว ส่วนประกอบชุด valvetrain ทั้งหมดก็ทำมาแบบเหนือกว่า ปั๊มน้ำมันเครื่องที่สามารถปั่นได้ในรอบสูงกว่าแบบไม่เกิด cavitation หรือไม่เกิดช่องว่างอากาศในช่วงการหมุนของปั๊มในรอบสูง ทำให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีเยี่ยมแม้จะอยู่ในรอบที่สูงมาก ทำให้ K20A นั้นทรงพลังตั้งแต่เกิด แต่ท้ายที่สุดแล้วเครื่องก็มีราคาที่ค่อนข้างจะสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาของ K24A แล้ว และความสามารถในการ reflash/remap กล่องเดิมได้อย่างทะลุปรุโปร่งของ tuner มากมาย K24A ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม คุ้มค่า ถูกใจพ่อบ้านขาซิ่งทั่วโลกอย่างมาก
รวมพลัง
K24A ก็ดี มีความจุ 2,400cc และ K20A ก็ดีเยี่ยม มีส่วนประกอบ High Performance จากโรงงานที่ดีมากมาย ในเมื่อเป็นเครื่อง series เดียวกันกันคู่ การยำใหญ่จึงบังเกิด ออกมาเป็น combo ยอดนิยม ใช้ท่อนล่าง K24A เดิม เปลี่ยนปั๊มน้ำมันเครื่องไปใช้ของ K20A ให้รองรับการเปิดรอบที่สูงขึ้น นำ camshaft ของ K20A และชิ้นส่วนอื่น ๆ ใน valvetrain อย่างชุดสปริงวาล์วและ retainer มาใช้แทนเพื่อเพิ่มพละกำลังและเพื่อให้รองรับการทำงานในรอบที่สูงขึ้น พร้อมกับไล่เก็บรายละเอียดต่าง ๆ จนจบ เป็นการนำชิ้นส่วนบางส่วนที่ราคายังอยู่ในช่วงที่เป็นมิตรของ K20A มาเสริมแต่งรวมร่างกับเครื่อง K24A ช่วยส่งเสริมสมรรถนะในเครื่อง 2,400cc เดิมที่มีอยู่ 200 แรงม้าให้เพิ่มขึ้นไปอีก เป็น combo ที่เรียกกันในกลุ่มคนเล่น K Series ว่า K24/20 หรือ K24+20 สุดยอด happy meal แห่งปี
ประกอบกับการไล่ชุดข้างเครื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดลูกรอกน้ำหนักเบา ท่อร่วมไอดีจาก K20A หรือท่อร่วมไอดีแต่งจากสำนักซิ่งชื่อดังสำหรับ K20A การใช้ลิ้นเร่งขนาดใหญ่จากเครื่อง Honda J30/J35/J37 V6 หรือจากสำนักแต่งชื่อดัง และส่วนอื่น ๆ รวมถึงท่อไอดี ไอเสีย กรองอากาศ ฯลฯ ให้พิมพ์เป็นหน้ากระดาษก็กล่าวไม่หมด ของซิ่งเต็มตลาด ของทดแทนเต็มบ้านเต็มเมือง จึงไม่แปลกที่ Honda K24A จะเป็นที่นิยมอย่างมหาศาล และครองใจพ่อบ้านซิ่งบ้านเรามาอย่างกว้างขวาง
*Honda K24/20 เป็นคนละรูปแบบกับการนำเครื่อง K20A ฝาแดงไปขยายความจุเป็น 2,400cc ด้วย stroker kit
Turbocharger/Supercharger
อีกรูปแบบความสนุกของ Honda K24A คือระบบอัดอากาศ นิยมทำกันทั่วโลก ด้วยความให้ก้านสูบและลูกสูบที่ทนแรงได้ดีมาจากโรงงาน ข้อเหวี่ยงที่มีการถ่วงน้ำหนัก balanced มาอย่างดี ระบบไอดีไอเสียที่ flow ดี รับอากาศดีได้มาก คายไอเสียและระบายความร้อนได้เร็ว และอีกสารพัดรายละเอียดที่ทำให้ Honda K24A มีพื้นฐานดั้งเดิมที่ดีเยี่ยม แม้จะอัตราส่วนกำลังอัดสูงอยู่บ้างเพราะเป็นเครื่องยนต์แบบ N/A (Naturally-Aspirated) แต่ก็ถูกนำมาติดตั้งระบบอัดอากาศอย่าง Turbocharger และ Supercharger อย่างแพร่หลาย แถมยังทนพละกำลังระดับ 400-600 แรงม้าได้หน้าตาเฉยด้วยเครื่องเดิมสนิท
วางในรถรุ่นอื่นและยี่ห้ออื่น
สำหรับยุคนี้ การวางเครื่องข้ามรุ่นและข้ามค่ายนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป เราจะเห็นรถที่หน้าตาเรียบร้อยแต่พก K ในห้องเครื่องกันเต็มไปหมด วันนี้ผมถือโอกาสนำภาพรถของเพื่อน ๆ รอบตัวที่เป็นครอบครัว K Series มาให้ดูกันบางส่วนครับ
การติดแก๊ส
เนื่องจากการใช้แก๊สนั้นจะสร้างความสึกหรอให้กับ valve sealt หรือบ่าวาล์วเป็นพิเศษ รถที่มีการใช้แก๊สในเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแก๊สนั้นจะมีความสึกหรอที่บ่าวาล์วมากกว่าปกติ บ่าวาล์วจะทรุดตัวเร็ว เพราะเนื้อแก๊สไม่มีสารปกป้องบ่าวาล์วแบบน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานทั่วไป และการปรับจูนองศาจุดระเบิดล่วงหน้าก็ไม่ได้ทำมาเพื่อแก๊ส จึงมีส่วนทำให้บ่าวาล์วสึกหรอเร็ว รถใช้แก๊สจึงจำเป็นจะต้องมีการตั้งวาล์วเป็นระยะก่อนที่วาล์วจะยันกับชุดกดวาล์ว และบ่าวาล์วจะรั่วจนเครื่องยนต์เสียกำลังอัดในที่สุด เราควรทำการตรวจเช็คทุก 20,000-40,000 กิโลเมตรตามลักษณะการใช้งาน เพื่อตรวจสอบว่า valve clearance หรือระยะห่างระหว่าง rocker arm ชุดกดวาล์วกับก้านวาล์วนั้นมีระยะที่ชิดหรือห่างเกินค่ามาตรฐานหรือยัง หากอยู่นอกค่ามาตรฐานแล้วก็ต้องทำการปรับตั้งวาล์วทันที
แต่ด้วยความที่ valvetrain หรือชุดวาล์วของ Honda K24A นั้นใช้วิธีตั้งวาล์วด้วยการขันมือ สามารถปรับตั้งระยะห่างได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องถอด camshaft และถ้วยวาล์วออกมาเจียรปรับระยะแบบเครื่องยนต์หลาย ๆ รุ่น สามารถทำได้ง่ายโดยเพียงแค่เปิดฝาครอบวาล์ว คลายล็อคชุดกดวาล์วด้วยประแจหรือลูกบล็อค เราจะสามารถขันตั้งระยะได้ด้วยเครื่องมือธรรมดาทั่วไปอย่างไขควงได้ทันที จากนั้นตรวจสอบระยะให้ได้ค่ามาตรฐาน แล้วขันล็อค เป็นอันจบพิธีตั้งวาล์ว
และด้วยวิธีปรับตั้งวาล์วที่เป็นมิตรของ Honda เสมอมา ทำให้เป็นมิตรกับผู้ใช้แก๊สอย่างมากครับ
แนะนำอู่ติดตั้งแก๊สมาตรฐาน
Hybrid AutoCar มีประสบการณ์ในการติดแก๊สรถยนต์มานับหมื่น ๆ คันตั้งแต่ยุค Hybrid Engery ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโฉมใหม่ Hybrid AutoCar ทำงานรวดเร็ว บริการหลังการขายดีมาก และมีให้บริการติดตั้ง oil cooler พร้อมบริการของเหลวมาตรฐานและระดับ premium high-end สำหรับรถยนต์ที่เพื่อน ๆ รัก มีศูนย์บริการและห้องรับรองอย่างดี เครื่องมือมาตรฐาน อุปกรณ์มาตรฐาน ให้คำแนะนำลูกค้าได้ กลุ่ม XGN ของเราก็เป็นลูกค้าที่นี่มาอย่างยาวนาน แนะนำเลยครับ
Hybrid AutoCar
ตั้งอยู่ที่ถนนเลียบคลอง 3 เข้าได้ทั้งจากถนน รังสิต-นครนายก และคลองหลวง ติดปั๊ม Esso มีที่จอดรถกว้างขวาง เปิดให้บริการ 6 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 9:00 – 16:00 หยุดทุกวันอังคาร
ติดต่อ Hybrid AutoCar
โทรศัพท์: 02-990-8886, 085-800-0881
LINE: https://line.me/ti/p/NuEnbg-7pW
Website: https://www.hybridautocar.com
Facebook: https://www.facebook.com/HYBRIDAUTOCAR.services
พิกัดแผนที่ Google Maps
https://goo.gl/maps/3fX3wKRnHeL9gY5U9
สรุป
ด้วยความที่ตอบสนองทั้งในแง่ประสิทธิภาพ ราคา และของแต่ง เรียกว่ารอบด้านถึงเพียงนี้ แถมหันไปไหนก็มีเพื่อนเล่นเต็มไปหมด จึงไม่แปลกที่ Honda K24A จะเป็นที่นิยมของชาวโลกทั้งจากทั่วโลกและในประเทศไทย นิยมกันขนาดที่แม้แต่รถขับหลังยังเอา K24A ไปวาง ฮิตระดับที่ต้องบอกว่าถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็ขอให้บอก K Series เรียกว่าเป็นให้ได้ทุกอย่างจริงๆ
หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยที่เพื่อน ๆ มีกับเครื่องยนต์ Honda K24A รุ่นนี้ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ไว้โอกาสหน้าจะนำเครื่องยนต์รุ่นอื่น ๆ มาแนะนำกันใหม่
สวัสดีครับ
